ทำไมดื่มนมแล้วท้องเสีย ?





          นมถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ สามารถรับประทานกับได้ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เด็ก ไปจนถึงคนแก่  ควรได้รับสารอาหารจากนมเช่น แคลเซียม จะทำให้กระดูกแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดี

เอ๊ะ .. พูดๆไปนมมันมีประโยชน์นี่นา แต่ทำไมบางทีดื่มแล้วท้องเสีย ?

เพราะว่าท้องของบางคนไม่มีตัวย่อย lactose หรือมีน้อย ซึ่งเป็นส่วนผสมที่อยู่ในนม พอเราดื่มนมเข้าไปปริมาณมากๆ จากที่ไม่เคยดื่มมาก่อน ก็ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร lactose เข้าไป เมื่อร่างกายไม่ได้สร้าง เอนไซม์ตัวย่อย lactose นี้ ร่างกายจึงไม่สามารถย่อยนมให้เป็นโมเลกุลเล็กๆได้ คิดว่านมที่เราดื่มเข้าไปเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงทำให้เกิดอาการท้องเสีย

          แต่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะว่าเราสามารถสร้างเอนไซม์ตัวนี้ขึ้นได้ โดยการค่อยๆดื่มนมทุกวัน วันละนิด และไม่ควรดื่มตอนท้องว่างเมื่อเราดื่มวันละนิดไปเรื่อยๆ ร่างกายเราก็จะสร้างเอนไซม์ที่ช่วยย่อย lactose ที่อยู่ในนม หลังจากนั้นเราก็สามารถดื่มนมได้ตามปกติ ไม่มีอาการดื่มนมแล้วท้องเสียอีก

การดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำตอนไหน ? ดื่มอย่างไรให้ถูกวิธี ?



          การดื่มน้ำจะช่วยทำให้ผิวพรรณของเราชุ่มชื้น ร่างกายสดชื่น ตามหลักการของการดื่มน้ำแล้วที่ผู้ใหญ่ หรือคุณครูท่านสอนมาตั้งแต่เราเป็นเด็ก ว่าให้ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วนะลูก แต่จริงๆแล้วคนทุกคนย่อมมีการใช้งานร่างกาย ในวันๆหนึ่งไม่เหมือนกัน การสูญเสียน้ำในร่างกายจังต่างกัน ดังนั้นความต้องการที่จะได้รับปริมาณน้ำก็ต่างกันไปด้วย  ซึ่งผู้หญิงและผู้ชายจะต้องการน้ำในปริมาณที่ไม่เท่ากัน

ผู้หญิง ควรดื่มน้ำวันละ 7-9 แก้ว ถึงจะถือว่าดี

ผู้ชาย ควรดื่มน้ำวันละ 10-13 แก้ว ถึงจะถือว่าดี ( เยอะจัง )

นอกจากนี้ถ้าหากวันนั้นมีกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียน้ำมาก เช่น เรามีการออกกำลังกาย เล่นกีฬา ถ้าเป็นเช่นนี้ ให้ดื่มเพิ่มจากปริมาณข้างบนอีก 1-3 แก้ว

แล้วเราควรดื่มน้ำตอนไหน เวลาไหน ถึงจะถือว่าดีล่ะ ?

          เวลาในการดื่มน้ำก็มีส่วนส่งผลดีผลเสียต่อร่างกาย ถ้าหากมาดื่มน้ำเอารวดเดียว 10 แก้ว คงจะพุงแตกกันพอดี จึงได้แบ่งเวลาการดื่มน้ำมาให้เป็นช่วงๆได้ดังนี้

-ตอนเช้าตอนตื่นนอน ช่วงนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะว่าร่างกายต้องการใช้น้ำมาก เลือดของเราจะขาดน้ำ ควรดื่มให้ได้ 3-4 แก้ว

- ช่วง 10 โมง ถึงบ่ายโมง ดื่ม1-2แก้ว

- ช่วง บ่ายสาม ถึงห้าโมง ดื่ม 2-3 แก้ว

- ช่วงเย็น หกโมงถึง สองทุ่ม ดื่ม 2 -3แก้ว

- ก่อนนอนดื่มอีก 1 แก้ว ถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยจะดีมาก เพราะจะทำให้หลับได้สบายขึ้น

(ถ้าหากมีการออกกำลังกาย ให้ดื่มน้ำหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว 1-3 แก้ว)

ริมฝีปากดำ ทำให้กลับมาเป็นสีชมพูได้ ง่ายนิดเดียว

   


      ทำอย่างไรดีถ้าริมฝีปากดำ ดูคล้ำไม่อมชมพูเหมือนคนอื่นๆเขา การมีริมฝีปากดำจะทำให้หน้าเราดูโทรม หมอง ดูไม่สดชื่น สาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากดำอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งจะแนะนำสาเหตุและวิธีแก้ต่างๆ ดังนี้

1. แพ้ยาสีฟัน ในยาสีฟันบางชนิดจะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งถ้าหากปากเราแพ้ ก็จะทำให้เกิดอาการปากดำคล้ำได้ ให้สังเกตุว่าเวลาเราแปรงฟันเรารู้สึกแสบๆบริเวณปากหรือไม่ และให้สังเกตุรอยหลังแปรงหากมีรอยแดงๆ รอบปาก หมายความว่าเราอาจจะแพ้ยาสีฟันชนิดนั้น การเลือกยาสีฟันที่ดี ควรบีบยาสีฟันออกมานิดนึงแล้วบี้ดู ถ้าบี้แล้วละเอียดแสดงว่าเป็นยาสีฟันที่ดี ไม่ควรใช้ยาสีฟันที่เย็นและซ่าจนเกิดไปเพราะอาจจะทำให้แพ้ได้

2. ติดนิสัยชอบเลียปากบ่อยๆ เมื่อเราเลียปากในลิ้นจะมีน้ำลายซึ่งมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหาร เมื่อปากเราสัมผัสกับเอนไซม์ตัวนี้จะทำให้ปากระคายเคืองและดำได้

3. โดนแสงแดด ปากคนเราก็เป็นผิวหนังเหมือนกับส่วนอื่นๆ เมื่อโดนแดดก็ต้องดำเป็นธรรมดา วิธีแก้คือ ให้หาลิปมันที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดมาใช้ซะ นอกจากจะป้องกันแสงแดดแล้ว ยังช่วยให้ปากชุ่มชื้น ไม่แห้ง อีกด้วย

4. การสูบบุหรี่ ลองสังเกตุคนที่สูบบุหรี่มานานๆ ริมฝีปากจะคล้ำ และยังทำให้เป็นโรคอื่นๆอีกด้วย ถ้าอยากให้ริมฝีปากอมชมพูก็ไม่ควรสูบ

5. ดื่มน้ำเยอะ ๆ วันนึงควรดื่มให้ได้ 8-10 แก้ว จะทำให้ผิวเราชุ่มชื้น และปากก็จะชุ่มชื้นตามไปด้วย

6. การใช้น้ำยาบ้วนปากที่เผ็ดร้อนจนเกินไป ควรเปลี่ยนมาใช้แบบที่ไม่เผ็ดมาก

หากทำได้ตามนี้รับรองว่าริมฝีปากของท่านจะไม่ดำ ไม่คล้ำ และดูอมชมพูขึ้นมาในเวลาไม่นาน

นอนดึกใครว่าไม่เป็นไร ? อาจจะอันตรายกว่าที่คุณคิด



          เชื่อว่าทุกคนที่อ่านบทความอยู่นี้ต้องเคยนอนดึกกันมาบ้าง บางคนอาจจะนอนดึกเพราะมีความจำเป็นต้องนอนดึก หรือบางคนอาจจะนอนดึกเพราะความเคยชินเป็นนิสัย ทุกท่านอาจจะรู้จักผลเสียของการนอนดึกแบบผิวเผินอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ง่วงนอน(ข้อนี้มันแน่อยู่แล้ว) สิวขึ้น หน้าโทรม เพลีย 9ล9  วันนี้เรามาดูผลเสียของการนอนดึกกันว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจะแบ่งเป็นข้อๆได้ดังนี้

- ทำให้อ่อนเพลียไม่มีแรง จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ยิ่งถ้าท่านอยู่ในวัยเรียนแล้วล่ะก็มันอาจจะเป็นสาเหตุหลักๆเลย ที่ทำให้การเรียนของท่านตกต่ำลง

- ผิวพรรณไม่สวยงาม เพราะผิวพรรณของคนเราจะได้รับการฟื้นฟูเมื่อตอนเรานอนหลับ ถ้าเรานอนดึกผิวพรรณของเราก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟูเท่าที่จำเป็น ทำให้เป็นสาเหตุของการนอนดึกแล้วตื่นเช้ามาผิวโทรม สิวขึ้น ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า นั่นเอง

- ทำให้อ้วนขึ้น เพราะว่าเมื่อเรานอนดึกร่างกายของเราจะหลั่งสารที่มีชื่อว่าคอร์ติโซลออกมา ทำให้ร่างกายเกิดอาการหิว ระบบย่อยอาหารก็จะทำงานมากขึ้น จึงทำให้เรานั้นกินเยอะขึ้น หากกินในเวลาดึกบ่อยๆก็จะทำให้อ้วนขึ้นเรื่อยๆ

- สมองทึบ ทำไรอะไรเฉื่อยช้า หลงๆลืมๆ เมื่อร่างกายพักผ่อนน้อย เวลาในการนำเอาสารอาหารไปเลี้ยงสมองก็น้อยตามไปด้วยและจากการสำรวจพบว่าคนที่นอนดึกติดกันเป็นเวลานานๆ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ง่ายกว่า คนที่นอนไม่ดึก

โอ้โห... เห็นโทษของการนอนดึกแล้วอยากนอนเร็วขึ้นมาทันที แต่สำหรับบางคนที่มีเหตุจำเป็นต้องนอนดึก เช่น ทำงาน อ่านหนังสือสอบ อะไรเหล่านี้ ผมก็มีวิธีดูแลตัวเองสำหรับคนที่ต้องนอนดึกมาฝากกันครับ

- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้ร่างกายยิ่งโทรมหนักขึ้นไปอีก นึกถึงคนที่เที่ยวกลางคืนพวกนี้สุขภาพจะเสียเร็วมากเพราะว่านอนดึกแถมยังดื่มเหล้า เบียร์ อีกต่างหาก

- เมื่อตื่นนอนควรจะวอร์มร่างกายสักนิด ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแปรงฟัน เพื่อเป็นการบอกให้ร่างกายเตรียมความพร้อม

- เมื่อรู้สึกตัวตื่นนอนไม่ควรจะนอนต่อ ให้ลุกขึ้นมาเลย ถ้าหากนอนต่อ เราอาจจะตื่นอีกทีตอนเที่ยง ทำให้ไม่ได้ทานอาหารมื้อเช้าอีก มือเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ถ้าหากเราไม่ได้รับสารอาหารในมื้อเช้า ร่างกายก็จะนำของเสีย (อุจจาระของเรานั่นเอง) ไปเลี้ยงสมองแทน - -

ถ้าหากไม่จำเป็นเพื่อนๆไม่ควรที่จะนอนดึกนะครับ มีทริคนึงมาฝากสำหรับคนที่อยากนอนเร็วแต่ไม่ง่วง ให้ทำตามนี้นะครับ พอดึกแล้วให้เราปิดพวกโซเชียลทุกชนิด ปิดไฟให้หมด เพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับสภาพแวดล้อม อาจจะฟังเพลงเบาๆช้าๆ ทำให้เคลิ้ม ง่วงได้

          สำหรับบทความสุขภาพบทนี้ ก็จบลงเพียงเท่านี้ เชิญติดตามกันในบทหน้าได้นะครับ จะเอาเกร็ดความรู้ใหม่ๆมาฝากกันอีก